สอบถามเรื่องการใช้โปรแกรม lightroom

[thanomphong]

สวัสดีครับคือผมใช้ โปรแกรมlightroom อิมพอร์ตรูปเข้าไปแล้วพบว่ามีปัญหาอย่างนึงคือรูปในโปรแกรมมีสีสันผิดไปจากที่เห็นในกล้องไป ไม่ทราบพอมีวิธีการแก้ไขยังไงบ้างครับ หรือใครมีโปรแกรมที่ใช้ดี ๆ โดยเฉพาะเรื่ืองการบริหารจัดการรูปภาพจำนวนมากใส่คีย์เวิร์คได้ง่าย เหมาะกับทำงาน photostock บ้างครับ ขอบคุณมากครับ

[สุระ นวลประดิษฐ์]

จริง ๆ แล้วมีวิธีการแก้ไขอย่างแน่นอน เพราะโปรแกรมนี้สร้างมาสำหรับจัดการภาพถ่ายโดยเฉพาะ

ผมก็เคยอ่านเจอวิธีแก้ไขเรื่องสีเพี้ยนในหนังสือเกี่ยวกับ Lightroom แต่พอดีตอนนี้ผมอยู่ต่างจังหวัด และไม่ได้เอาหนังสือ Lightroom ติดรถมาด้วยก็เลยค้นข้อมูลให้ไม่ได้ครับ

อย่าเพิ่งเปลี่ยนเลยครับ แก้ไขได้แน่นอน ผมลองมาหลายโปรแกรมแล้ว ยังยกให้โปรแกรมนี้เป็นที่หนึ่งอยู่ดีครับ

สุระ

[fri9thsep]

เจอปัญหานี้เหมือนกันค่ะ
กำลังพยายามหาวิธีแก้อยู่

ปัญหาที่เจอคือ ไฟล์ RAW ต้นฉบับของเรา บางภาพ เกือบดีแล้ว
เพราะว่า ตั้งแต่ตอนถ่าย ก็ตั้งค่าในกล้อง มาพอสมควรแล้ว
เหลือปรับอีกแค่นิดเดียวแล้วเชียว ก็จะสวยถูกใจแล้ว
คือดูจาก windows explorer น่ะคะ สีสัน และอื่นๆ เกือบโอเคแล้ว
แต่พอ import เข้า lightroom โปรแกรม จะ ปรับ สี tone ให้อัตโนมัติ
ซึ่งบางทีมันตุ่นๆแล้วก็แย่กว่าที่เราตั้งค่าถ่ายมาจากกล้องเยอะเลย

ก็เลยเซ็งเรื่องนี้มาก พยายามหาทางแก้มานานแล้ว ไม่ให้มัน ปรับสีไฟล์ของเราให้อัตโนมัติ
ถ้าใครทราบวิธีรบกวนช่วยบอกด้วยนะคะ

หลังๆบางทีต้องยอมถ่ายเป็นไฟล์ RAW+jpg ไว้ เพราะ jpg สวยกว่า Raw ในโปรแกรมอีกอ่าาาา

[นายทศวัฒน์ โพธิ์ชัย]

ผมว่าไม่น่าเกี่ยวกับsoftware นะครับ ปกติผลที่แสดงใน lcd กล้องก็จะสว่างกว่าอยู่แล้วเพราะเป็นการแสดงผลกันคนละแบบ กล้องบางรุ่นยังแสดงผลได้ไม่เท่ากันเลย ยิ่งมาเปิดกับคอมพิวเตอร์ที่สเปคแตกต่างกันก็ต้องดูว่าคอมพิวเตอร์ที่เราใช้เป็นการ์ดจอแบบไหนถ้าแบบ built-in สีก็อาจจะผิดไปนิดหน่อยแต่ก็ไม่น่าจะมีปัญหามากนะครับ ผมว่าไม่น่าเกี่ยวกับโปรแกรมนะ

[สุระ นวลประดิษฐ์]

อ่านไปอ่านมาผมพอเข้าใจคำว่า "สีเพี้ยน" ที่ว่าแล้วครับ นึกขึ้นมาได้ว่าเคยอ่านหนังสือเล่มหนึ่ง จำไม่ได้ว่าเล่มไหน คือแม้ว่าคุณจะถ่ายในรูปแบบ RAW แต่ภาพที่คุณเห็นในจอ LCD ของกล้องก็ยังคงเห็นเป็นไฟล์ JPG อยู่นั่นเอง ไม่ใช่เห็นเป็น RAW แต่พอเอาภาพเข้าในคอม คราวนี้มันจะเป็น RAW แท้ ๆ สีสันดูเหมือนจืด ทีนี้ก็แล้วแต่คุณจะจัดการให้มันเป็นรูปแบบไหน จะเอาสีขนาดไหน ความเปรียบต่างเท่าไหร่ ไวท์บาลานซ์แบบไหน ความอิ่มตัวเท่าใด มิติขนาดไหน ฯลฯ ก็เลือกปรับเอา ซึ่งเท่าคุณทำหน้าที่แทนโปรแกรมในกล้องในการสร้างภาพ JPG นั่นเอง แต่ในกรณีที่เราถ่ายภาพด้วยไฟล์ JPG มาจนชิน (รวมทั้งผมเองในตอนแรก ๆ ก็รู้สึกแบบนี้ แต่ตอนนี้ชินแล้วครับ ปรับเองมันส์กว่าเยอะ) เราจะรู้สึกว่ามันจืดดดดดดดดดดดดดดดดดดดสนิทจริงๆ

เอาอย่างนี้ไหมครับ ลองถ่ายภาพเดียวกันสองแบบสักพัก ถ่าย JPG แล้วก็ถ่ายแบบ RAW หลังจากนั้นก็ฝีกปรับไฟล์ RAW ให้คล้าย ๆ หรือเหมือน ๆ หรือดีกว่า JPG ที่กล้องปรับให้ ผมว่าทำสักพักก็ชำนาญ แล้วจะติดใจ แต่ว่าถนัด JPG จริง ๆ ก็ถ่ายเป็น JPG ไปเลยไม่ผิดกติกาแต่อย่างใดครับ

[thanomphong]

สวัสดีครับคุณสุระ เรื่องนี่ผมค้นหาจากในเนตแล้วพบว่าอย่างนี้ครับ

คือเวลาเราถ่ายรูปด้วยกล้องจะมีโปรไฟล์ที่เราตั้งค่าไว้ แต่ผู้ผลิตกล้องเค้ากั๊กเรื่องนี่ไว้เพราะฉะนั้นใครถ่ายเป็น raw พอมาเปิดดูใน LG จะพบว่าสีเพี้ยนไปต้องใช้โปรแกรมของค่ายกล้องเปิดดูจะมีสีเหมือนที่เราเห็นครับก็เลยมีการให้ดาว์นโหลดโปรไฟล์เอาไปใช้กับ LG ครับ แต่พบว่าสียังเพี้ยนอยู่ครับ(ใครสนใจเรื่องนี้ลองหาในกูเกิลใช้คีเวิร์ดว่า lightroom สี่เพี้ยน ดูครับ

แต่มีคนแนะนำว่าให้ใช้โปรแกรมที่แถมมากับกล้องเปิดไฟล์ก่อนแล้วคอนเวิร์คเป็นไฟล์ชนิดอื่น เช่น ตอนนี้ผมใช้โปรแกรม DPP เปิดไฟล์ RAW แล้วแปลงเป็น TIFF หลังจากนั้นนำเข้า LG ก็จะมีสีถูกต้องตามที่เห็นมาครับ

[สุระ นวลประดิษฐ์]

ขอบคุณครับ ผมสับสนเล็กน้อยระหว่างคำว่า สีเพี้ยน กับ สีจืด ฮ่าฮ่า

[fri9thsep]

ตอนนี้แก้ไขได้บ้างแล้วค่ะ ถูกใจมากขึ้นแล้ว โดยรวมแล้วโอเค เริ่มปลื้มล่ะ หลังจากทนใช้มาเป็นปี 555
เท่าที่เข้าใจคือ โปรแกรม Lightroom เวลา import ไฟล์มา จะมีการปรับออโต้บางส่วน
ที่เจอบ่อยแล้วก็เซ็งสุดๆ คือ Auto Tone คือบางทีตั้งในกล้องไว้พอดีแล้ว ชดเชยแสงไว้พอดีแล้ว
มันดันปรับซะมืดลงเยอะเลยโดยเฉพาะ ภาพที่วัดแสงยาก ต้องมีการชดเชยแสงอะไรพวกนั้น

ตอนนี้ก็เลยไปตั้งค่าโปรแกรมใหม่ ให้เวลา import ไฟล์ เข้ามา ไม่ auto tone
อาจจะยังจืดอยู่บ้างนิดหน่อย เท่านั้น แต่เรื่อง tone กะ WB ไม่ค่อยผิดเพี้ยนไปจากหลังกล้องแล้วค่ะ

ตั้งค่าตรงนี้ได้ที่ Edit > Preference > Preset
เอาเครื่องหมายถูกตรง Apply auto tone adjustments ออก ก็จะช่วยได้ค่ะ

[thaiphotos]

ขออนุญาตเสริมนิดนึงครับ

ไฟล์ภาพของกล้องดิจิตอลนั้น ปัจจุบันสามารถถ่ายได้เป็นรูปแบบของ JPEG, NEF (RAW), TIFF

- NEF(RAW) นั้นเป็นไฟล์ภาพที่เป็นข้อมูลดิบของสี ข้อมูลดิบของสีนั้นคือเม็ดพิกเซลนั้นยังไม่ได้อ่านค่าสีที่เป็นสกุลของสีโดยเฉพาะ
สกุลของสีนั้นก็จะแตกต่างกันออกไป มีหลายแบบ หลายนามสกุล หลายคุณภาพ อย่างที่คุ้นๆนั้นก็จะมี JPEG, TIFF, TARGA, BMP......
ไฟล์ดิบหรือ NEF (RAW) นั้นเป็นไฟล์ที่ยังไม่ได้อ่านค่า RGB (red, green, blue) ใดๆเลย เพราะฉะนั้น ถ้า View ภาพจากโปรแกรมทั่วไป สี RGB ที่ยังไม่ได้ถูกอ่านก็จะเป็นสีตุ่นๆครับ

กล้องแต่ละยี่ห้อนั้น ค่าไฟล์สีดิบนั้นจะแตกต่างกันออกโดยสิ้นเชิง ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการออกแบบ Plate RGB ที่อยู่ในชั้นเซนเซอร์ของตัวกล้องเป็นหลัก
การที่จะแปลงไฟล์ดิบจากกล้องยี่ห้อไหน ค่าสีของ RGB ที่ถูกต้องที่สุดนั้นจะเป็นโปรแกรมหลักของกล้องค่ายนั้น
เช่นแคนนอน ต้องใช้ DPP นิคคอนต้องใช้ Capture NX ..... แปลงเป็นไฟล์ต่างๆได้ตามใจชอบโดยที่สีนั้นจะถูกต้อง 100% ครับ

โปรแกรมต่างๆที่สามารถแปลงได้เช่น Adobe Photoshop, Adobe Lightroom, Photoscape..... โปรแกรมพวกนี้อ่านและแปลงไฟล์ดิบของกล้องต่างๆได้ แต่โปรแกรมพวกนี้ไม่ได้ตั้งค่า RGB
ไว้ที่ค่ากล้องยี่ห้อใดยี่ห้อหนึ่ง แต่จะตั้งเป็นกลาง เพราะฉะนั้นสีสันจึงเพี้ยนหมดครับ



- JPEG เป็นสกุลไฟล์ภาพที่เป็นกลางที่สุด ไฟล์ภาพมีขนาดไม่ใหญ่มาก จึงเป็นที่นิยมใช้กันมากมาย
แต่ไฟล์ JPEG นั้นเป็นไฟล์ภาพที่มีการบีบอัดสูง .... เพื่อให้ไฟล์มีขนาดไม่ใหญ่มาก คุณภาพจึงไม่สูงตาม
ไฟล์ภาพ JPEG เป็นไฟล์ภาพที่มีการแปลงค่าสี RGB เป็นสกุลเรียบร้อยแล้ว และถูกบีบอัดในตัว ค่าสีทุกค่าจึงถูกต้อง 100% ที่เปิดดู และใช้งานในทุกโปรแกรมครับ

- TIFF คือไฟล์ภาพที่อ่านค่า RGB ออกมาอย่างสมบูรณ์แบบโดยไม่ต้องมีการแปลงเช่นกัน คุณภาพไฟล์นั้นไร้การบีบอัด (non compression) และจะเป็นไฟล์ภาพที่ขนาดใหญ่ที่สุด
ช่างภาพที่ต้องการคุณภาพสูงสุดนั้น หรือสื่อสิ่งพิมพ์คุณภาพสูงจะต้องการไฟล์ประเภทนี้นำไปใช้งานครับ




................. แล้วทำไมต้องเป็นไฟล์ RAW .............



เพราะไฟล์ RAW นั้นสามารถแปลงเป็น TIFF หรือ JPEG ก็ได้ ..... เมื่อแปลงเป็น TIFF ไฟล์ภาพก็จะได้คุณภาพสูงที่สุดของทุกตระกูล
เมื่อแปลงเป็น JPEG นั้น ก็สามารถเลือกเป็น JPEG ที่คุณภาพสูงได้เช่นกัน...... แต่เนื่องจาก นามสกุล JPEG นั้นจะมีการบีบอัดอยู่ในตัว อย่างไรก็สู้ TIFF ไม่ได้ครับ
แต่เนื่องจากขนาดของไฟล์ TIFF นั้นใหญ่โตสุดๆ มันจะเปลืองเนื้อที่มากๆ และโปรแกรมจะทำการ process ภาพนั้นจะใช้เวลาและกิน memory สุดๆเลยครับ
ใครที่คิดจะใช้ไฟล์ TIFF นั้นจะต้องมี HDD ที่เหลือเฟือ และ RAM ของคอมพ์ที่สูงที่สุดด้วยครับ รวมไปถึง VGA CARD ต้องแรงมากๆ

ไฟล์ RAW นั้นจะเป็นไฟล์ที่มีการให้ตัวสูงมากๆ เพราะค่าเป็นค่าดิบ เมื่อนำมาเปิดกับโปรแกรมของทางค่ายนั้นจะได้เปรียบทันทีในเรื่องของการ process ทุกรูปแบบ
ไฟล์ Raw จะสามารถแก้ไขไฟล์ภาพ ดึงแสง ลดแสงได้ถึง 1 stop โดยที่เม็ดพิกเซลไม่กระเทือนเลย นี่คือประโยชน์ของมันเลยครับ
ใครใช้ canon ต้องแปลงใน DPP ใครใช้ Nikon ต้องแปลงใน Capture NX ......... ทั้งนี้คุณภาพ และสีภาพจะตรงที่สุดครับ

ส่วนโปรแกรมต่างๆเช่น Adobe Photoshop, Adobe Lightroom ก็จะนำมาใช้ทีหลังเมื่อหลังจากแปลงไฟล์ภาพจากโปรแกรมของทางค่ายกล้องนั้น จะเป็นดีที่สุดครับ
ถ้าเอาไฟล์ Raw มาแปลงใน Lightroom เลย ค่าสีก็จะเพี้ยนครับ ก็ต้องแก้กันใน Lightroom ดึงสีให้เป็นไปตามที่ว่า...... ซึ่งมันจะเป็นการแก้ปัญหาที่ตามมาเท่านั้นเอง



ทั้งหมดนี้พิสูจน์ได้อย่างไร ???????????


ลองดูสิครับ ตั้งโหมดถ่ายภาพ JPEG+RAW .... เอา JPEG ขนาดใหญ่ที่สุดนะครับ
ถ่ายภาพมาเป็นตัวอย่าง ที่สีสวยๆ รายละเอียดยิบๆ 1 ภาพ ...... ให้จำค่าสีที่เห็นในจอ LCD ไว้ให้ดีๆนะครับ
เสร็จแล้วโหลดเข้าคอมพ์ สมมติว่าเป็นไฟล์ภาพ IMG10001
เราก็เอาไฟล์ภาพที่เป็น JPEG ของกล้องเก็บไว้
เอาไฟล์ RAW ไปแปลงจากค่าย สมติว่าเป็นแคนนอน แปลงกับ DPP ..... เป็นเป็นคุณภาพสูงสุด save as IMG10001-1...... คือให้ไฟล์ติดกันเพื่อเปิดเทียบดูในโปรแกรมสลับกันได้เลย
แล้วลองใช้ ACD See เปิดเทียบไฟล์ภาพเดียวกัน 1. คือไฟล์ภาพ JPEG จากกล้อง และ JPEG ที่แปลงมาจาก RAW
เปิดสับไปมาจะเห็นข้อแตกต่างเรื่องความเนียน การไล่โทน... โดยเฉพาะอย่างยิ่งคือ รายละเอียดที่คมกว่าครับ ......... แต่สีสดเท่ากัน ค่าสีถูกเหมือนกับที่เห็นในกล้องเหมือนกัน (ยกเว้นจอคอมพ์ไม่ดี หรือ Calibrate ไม่ดี)


Adobe Lightroom อาจจะเปิด RAW File ได้ดีที่สุดโปรแกรมนึง ....... แต่จะไม่ตรงและยืดหยุ่นน่ะครับ ดึงสีแรงไป เกรนจะขึ้นง่ายมากๆ
Lightroom และ Photoshop จึงเป็นโปรแกรมที่สองที่จะมาทำตกแต่งภาพที่โปรแกรมจากค่ายทำไม่ได้น่ะครับ



เวปไซต์ถ่ายภาพผมครับ

http://thaiphotos.multiply.com/

------------------------------------------

http://www.shutterstock.com/g/leelaryonkul

^^

อธิบายยาว ไม่แน่ใจว่าผมจะเขียนรู้เรื่องหรือเปล่าน่ะครับ

[thaiphotos]

เรื่องของจอ LCD และจอมอนิเตอร์ก็เป็นอย่างนี้ครับ

จอ LCD ของกล้องนั้นมันสามารถตั้งความสว่างได้ตามใจอยู่แล้ว ถ้าตั้งสว่างมาก มืดมาก มันก็จะแสดงผลค่าของภาพที่จะแตกต่างกันไป
จอ LCD ของกล้องนั้นจะแสดงผลของค่าสีที่กล้องจะอ่านค่า RGB ออกมาแล้วครับ
ต่อให้ถ่ายภาพเป็น RAW อย่างเดียว แต่กล้องเวลาที่จะแสดงผลนั้น ที่จอ LCD จะอ่าน RGB ให้
แต่ถ้าเอาไปเปิดดูในคอมพ์โดยไม่ใช้โปรแกรมที่ไม่ใช่โปรแกรมค่ายกล้องนั้น สีก็จะออกมาเพี้ยน และตุ่นๆครับ


พิสูจน์ได้โดย...........

แนะนำให้ลองใช้ ACD See Pro 2 ขึ้นไป.......
ถ่ายภาพ JPEG+RAW ......
ไฟล์จะขึ้นมา double เลย คือ JPEG ไฟล์นึง ต่อด้วย RAW ไฟล์นึง
เปิดดูได้เลยครับ สีของ JPEG สวยสด ขณะที่ RAW นั้นตุ่นมากๆ.... (เพราะมันไม่ได้แปลงผลเท่านั้นเองครับ)



เรื่องจอคอมพ์ ........

Notebook ....... ส่วนใหญ่สีสว่างกว่าความเป็นจริง ถ้าเป็นของ Mac จะอ่านตรงสุด
Desktop LCD ...... จอแบน...... ก็จะมีเป็นรุ่นๆไป Acer, Samsung, LG....... สีและแสงก็จะคนละแบบ
ชนิดของ Desktop LCD บางรุ่นเป็นกระจก บางรุ่นเป็น crystal clear....... พวกนี้สว่างกว่าความเป็นจริงครับ

Desktop CRT...... จอมีบั้นท้าย (สมัยก่อน) จอพวกนี้คือจอที่สีและแสงจะตรงกว่า LCD แต่เดี๋ยวนี้มีพัฒนาแค่ยี่ห้อเดียวคือ EIZO......
จอ EIZO ราคาเป็นแสนเลยครับ บ้าพลังมากๆ แต่จอนี้บริษัท Graphic ใหญ่ๆจะนิยมใช้กัน เนื่องจากให้ผลตรงที่สุดโดยไม่ต้องใช้โปรแกรม calibrate สี


พอมาเรื่องโปรแกรม calibrate สี............ มันคือโปรแกรมที่เอาไว้ปรับค่าจอคอมพ์ของเราซื้อมาเอง มาปรับใช้งานกับภาพ Graphic โดยเฉพาะ
ที่นิยมมากจะชื่อว่า Spider ครับ
แต่เรื่องพวกนี้มันเกินไปนิดนึงสำหรับถ่ายภาพสมัครเล่น
แนะนำให้ปรับค่าจอคอมพ์ ตั้งค่า gramma ตั้งค่าความสว่างกับ contrast ให้ตรงกับที่เห็นที่สุด (ของแต่ละยี่ห้อ) เป็นอันใช้ได้ครับ

ล่าสุดที่ออกมาคือจอ LED....... สว่างมากๆครับ สว่างจริงๆ สีสวยมาก แต่ต้องปรับความสว่างให้เหลือ 10% ก็จะเท่ากับผลของจอที่เห็นครับ ...... เช่นจอ Samsung รุ่นใหม่ๆ






จาก อ้น ครับ

^^


http://thaiphotos.multiply.com/
http://www.shutterstock.com/g/leelaryonkul

[สุระ นวลประดิษฐ์]

ขอบคุณสุด ๆ เลยครับ อันนี้ละเอียดมาก ๆ เลย

[space]

ไหนๆก็ไหนๆแล้ว ขอแจมเรื่อง สีเพื้ยน/สีจืด เมื่อนำไฟล์ RAW มาเปิดใน LR สักนิดนะครับ สำหรับเหตุที่เป็นอย่างนั้นก็ตามที่คุณ thaiphotos ได้กล่าวไปแล้ว

เรื่องนี้มีบ่นกันมาตั้งแต่ LR เวอร์ชั่นแรกๆแล้ว ซึ่งมาถึงตอนนี้ที่ LR ออกมาถึงเวอร์ชั่น 3 ก็ได้มีการปรับปรุงในส่วนนี้ไว้แล้ว (จริงๆเริ่มมีมาตั้งแต่ LR 2.3 (ถ้าจำไม่ผิด) ส่วน LR เวอร์ชั่นก่อนหน้าจะต้องโหลดตัวเสริมมาติดตั้งเพิ่มเข้าไป)

LR_CC.gif (7.63 KiB) เปิดดู 12992 ครั้ง

คือในส่วน Panel: Camera Calibration (ใน Module: Develop) ที่ตัวเลือก Profile จะมี Preset ให้เลือกอยู่จำนวนนึง ซึ่ง Preset ที่มีชื่อขึ้นต้นด้วยคำว่า Camera แต่ละอัน จะเป็นเหมือนการเลียนแบบ Picture Stly (สำหรับกล้อง Canon) หรือ Picture Control (สำหรับกล้อง Nikon) นั่นเอง ส่วนถ้าเป็นกล้องยี่ห้ออื่นนี่ไม่ทราบเหมือนกันครับ ไม่เคยลอง



ลองดูภาพแล้วกันครับ จับภาพมาจาก LR 2.6

400D_RAW-2.gif (21.24 KiB) เปิดดู 12992 ครั้ง

ทางซ้ายเป็น Preset ที่มีให้เลือก เมื่อเปิดไฟล์ *.CR2 (RAW ของ Canon EOS 400D)
ส่วนทางขวาเป็น Picture Stly ที่มีให้เลือกในกล้อง Canon EOS 400D

- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -

D90_RAW-2.gif (19.32 KiB) เปิดดู 12992 ครั้ง

ทางซ้ายเป็น Preset ที่มีให้เลือก เมื่อเปิดไฟล์ *.NEF (RAW ของ Nikon D90)
ส่วนทางขวาเป็น Picture Control ที่มีให้เลือกในกล้อง Nikon D90



ที่เคยลองเทส Convert ไฟล์ RAW ของ Nikon D60 ด้วย Capture NX (โปรแกรมจัดการไฟล์ RAW ของ Nokon) และ Lightroom 2.6 ออกมาเป็นไฟล์ภาพ JPG โดยเลือก Picture Control / Preset แต่ละแบบเอามาเทียบกันดู ภาพที่ได้จาก LR 2.6 เท่าที่ผมดูก็มีสีสรรที่ใกล้เคียงกับภาพที่ได้จาก Capture NX เลยทีเดียว แต่ก็ยังไม่เหมือนกันแบบเป๊ะๆ 100% ส่วนใน Lightroom 3 ยังไม่ได้ลองครับ ใครว่างๆก็ลองเทสแล้วเอาผลการทดสอบมาบอกกันมั่งนะครับ

[nuttakit]

[lkunl]

Camera calibration ใน Lightroom 3 ผมลอง RAW D80 D300 สีเหมือนเป๊ะๆ เลยครับ
สีเหมือนจนแปลกใจ ทำไมเวอร์ชันก่อนๆ ไม่เห็นจะเหมือนเลย
(แต่ผมดูด้วยจอโน้ตบูีค มันอาจจะแสดงสีไม่ครบ ก็เลยเหมือนมาก )

ส่วน file RAW 5DMKII นี่ ต้องจูน camera calibration ของแต่ละสีพอสมควร (Red ,Green,Blue primary)
อันนี้รู้สึกจะได้แค่คล้ายๆ แต่จูนแล้ว save setting ไว้ใช้ได้ครับ ครั้งหน้าตอน import ให้มัน apply setting ไป
เลยก็ได้สีจะได้เหมือนสี JPG จากกล้อง

จูนเสร็จแล้ว save กด ALT ค้างแล้ว save เป้น default ได้เลยครับ วิธีการตามนี้ครับ
http://digital-photography-school.com/f ... tings.html

[space]

ขอบคุณครับคุณ lkunl สงสัยต้อง update เป็น v.3 มั่งล๊ะ

[lenslaser]

ขอบคุณมากครับ ผมถ่าย File RAW มาทำใน Lightroom โดยตรงเลย มีบางครั้งสีมันตกไปผมก็นึกว่าโปรแกรมน่าจะมีปัญหา รู้อย่างนี้แล้ว ต้องใช้ Capture NX .........(Nikon) แปลงเป็น TIff ก่อน แล้วค่อยนำเข้า Lightroom ผมเข้าใจถูกไหมครับ

ขอบคุณครับ ณริท

[bulldogza]

ผมก็ทำแบบนี้อยู่ครับ แต่ผมใช้ DPP ของ canon รู้สึกสีไม่ซีด

แก้ได้ดีระดับนึง

[lenslaser]

ขอบคุณคับ

ณริท