สวัสดีครับ จะมาเล่าประสบการณ์เด็กๆ กับพอร์ทวีดีโอน้อยๆ ของผมที่ dreamstime เว็บไซต์แห่งความฝัน
ก่อนอื่นขอออกตัวก่อนว่า ผมเพิ่งเริ่มต้นเข้ามาในงานสายนี้ อาจมีข้อผิดพลาด หรือ ถ้าท่านใดอยากชี้แนะ จะเป็นพระคุณอย่างยิ่งครับ
ผมยังเรียนอยู่มหาวิทยาลัย และเริ่มสนใจที่จะส่งวีดีโอสต๊อกเมื่อช่วงปลายปี เพราะได้คำแนะนำจากเพื่อนรุ่นเดียวกันที่ส่งภาพขาย ว่างานสายนี้สนุก ถ่ายเพลินๆ ก็ได้เงิน ตอนแรกก็ไม่ค่อยเชื่อเท่าไหร่ แต่พอลองหาข้อมูล ปรากฏว่ามีคนที่ทำงานสายนี้เป็นอาชีพจริงๆ นั่นก็คือ อาชีพ Stocker ฟังดูเท่ห์ชะมัด เลยตัดสินใจว่า จะลองมาตั้งใจกับมันสักตั้ง
ผมเริ่มด้วยการหาข้อมูล และอุบคำถามง่ายๆ ของตัวเองใว้ในใจ พยายามไม่เผลอไปตั้งคำถามที่มีคนเคยถามมาแล้ว เพราะมันทำให้ผู้ใหญ่มองว่าเราเป็นเด็กไม่รู้จักค้นหาคำตอบด้วยตนเอง เลยไล่อ่านกระทู้มันเกือบทุกกระทู้ในเว็บนี้ และยังไม่ลืมซื้อหนังสือของอาจารย์ สุระ ซึ่งทำให้ผมส่งวีดีโอด้วย FTP เป็นด้วยตัวเองจนบัดนี้
ผมมี 3 เทคนิคในการเริ่มต้นเป็นวีดีโอสต๊อกเกอร์มือใหม่ นั่นก็คือ ตั้งมั่น วางแผน และค่อยๆ ก้าวไปช้าๆ
1.ตั้งมั่น ผมตั้งใจว่าจะส่งวีดีโอเข้าไปในพอร์ทของเว็บ dreamstime เป็นเว็บแรก ไม่ใช่เพราะมันเป็นเว็บที่ขายดีที่สุด แต่มันเป็นเว็บที่ใช้งานง่ายที่สุดสำหรับผม ผมสามารถอัพโหลดไฟล์วีดีโอเข้าไปในพอร์ทได้ง่าย ปุ่มต่างๆ ในเว็บก็สะดวก ท่านอื่นอาจจะมีมุมมองที่แตกต่างจากผม แต่สำหรับผมผมมองว่าเว็บนี้น่าคบที่สุด ณ เวลานี้
หลังจากได้เลือกเว็บไซต์ที่ตัวเองต้องการส่งแล้ว ก็ตั้งใจว่าจะส่งแค่ที่เดียวไปก่อน ใว้เราโตขึ้นกว่านี้ค่อยว่ากันใหม่ ตรรกกะง่ายๆ สไตล์มือใหม่หัดเดิน
2.วางแผน ผมวางใว้ว่าปีใหม่นี้ (ที่ผ่านมา) ได้โอกาสกลับบ้าน ซึ่งบ้านผมมีธรรมชาติ สิ่งแวดล้อมที่มีเรื่องราวในตัวมันพอสมควร เลยตั้งใว้ว่าจะถ่ายทะเล ภูเขา คลื่นซัดฝั่ง และจบด้วยถ่ายพลุในคืน 31 ธันวาคม แต่ท่านผู้อ่านทราบไหมครับ ว่าผมเจอปัญหาใหญ่เข้าแล้ว นั่นคือ....ผมดันลืมขาตั้งกล้องใว้ที่มหา'ลัย ซะอย่างงั้น แผนแทบพังทะลายเมื่อไม่มีขาตั้งกล้อง ผมแทบสิ้นใจเมื่อต้องรู้ว่าไม่สามารถถ่ายธรรมชาติที่มีความสวยงามขนาดนี้ เพราะไม่มีขาตั้งกล้อง แต่ผมก็ไม่ยอมแพ้ ในเมื่อเราตั้งมั่นแล้ว เราก็ต้องลงมือทำจริงบ้างสิ ถึงแม้จะได้ไม่เต็ม 100 แต่ก็ขอได้ติดไม้ติดมือกลับไปบ้างสิวะเฮ้ยย
ผมตัดสินใจเอากล้องมิรเรอร์เลสตัวเล็กๆ ของผมวางบนกระเป๋ากล้อง ถอดเสื้อตัวเองออกแล้วนำไปรองใต้กระบอกเลนส์ใว้ปรับศูนย์หน้า เท่านั้นแหละครับ ทำให้ผมได้โบเก้พลุงามๆ และดันคลิปทะลุผ่านฉลุยไปรวดเดียว 5 คลิปกับเว็บนี้
เห็นไหมล่ะครับ ถ้าเราวางแผนใว้ ต่อให้มีสถานณการณ์บีบคั้นยังไง ก็จะไม่ทำให้เราลืมสิ่งที่เราตั้งมั่นใว้ตั้งแต่แรก ว่าต้องได้วีดีโอส่งเข้าพอร์ท dreamstime
3.ค่อยๆ ก้าวไปช้าๆ จากหลังดันคลิปทะลุผ่านไปได้ ก็มีกำลังใจขึ้นมาเยอะแยะ แต่ก็ไม่วายที่จะวางแผนก่อนออกรบทุกครั้ง ผมวางแผนอีกว่าวันนี้จะไปถ่ายอะไร ถ่ายช่วงไหน แสงไหนกำลังดี ใช้เลนส์อะไรบ้าง มุมไหนที่ดูโอเค น่าจะถูกใจลูกค้า คิด คิด อย่างช้าๆ ไม่รีบ ไม่หุนหันออกไปถ่าย กลัวว่าเดี๋ยวจะได้คลิปที่ไม่โอเคกลับมา เสียเวลาแย่
เมื่อวางแผนเสร็จก็เดินดุ่มๆ กางขา และถ่ายๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ทุกอย่างที่วางแผนมา ปรากฏวันนั้นได้คลิปที่พอใช้ได้ไป 17 คลิป และส่งให้ท่านขุนอินสเป๊กเตอร์ของ dreamstime ตรวจใช้เวลา 2 วัน ผ่านเรียบ...
จนวันนั้นมาถึงวันนี้ ผมมีคลิปในสต๊อก ทั้งหมด 24 คลิป อาจจะดูน้อยเอามากๆ แต่สำหรับผม มันเป็นอะไรที่น่าตื้นตัน เหมือนมันเป็นตัวพิสูจน์ตัวเราเอง ว่าเราก็ถ่ายโอเคนะ เราก็สามารถส่งวีดีโอขายได้นะ ถึงแม้ตอนนี้มันยังขายไม่ได้ก็ตาม แต่ผมเชื่อว่า ถ้าผมยึดกฏเหล็ก 3 ข้อ และไม่ยอมเป็นลิงถือลูกท้อซะก่อน วันที่ตีไข่แตกจะมาเยือนผมอย่างแน่นอน
ผมวางแผนใว้นับจากนี้ ว่าจะส่งคลิปไป dreamstime ให้ได้อย่างน้อยวันละ 5 คลิปที่มั่นใจสุดๆ จริงๆ วาส่งแล้วผ่านแน่ๆ เพราะถ้าส่งแล้วไม่ผ่านนี่ ทำผมหมดกำลังใจมาหลายครั้งแล้ว ส่งคลิปที่เรามองว่ามันโอเค มันสื่อความหมาย เราชอบดีกว่า เพราะผมเคยส่งคลิปที่ตัวเองมองว่ามันแย่ ขนาดตัวเรายังมองว่ามันแย่เลย แล้วลูกค้าที่เขารับคลิปเราไป เขาจะมองยังไง
การใส่ใจในรายละเอียดเล็กน้อย ผมมองว่าสำคัญมากทั้งวงการโปรดักชั่น และวงการสต๊อกเกอร์ เพราะสายอาชีพอย่างเราเป็นงานฝีมือ หากผลงานออกมาแย่ นั่นแสดงว่าฝีมือเราแย่
ขอจบบทความด้วยทริกเล็กๆ น้อย
คลิปที่ผมส่งส่วนใหญ่ถ้าซูม 100 แทบจะไม่มีน็อยส์เลย
ผมใช้วิธีถ่ายวีถีชีวิตคนรอบข้าง เพราะเคยไปอ่านเจอมาว่า เว็บขายภาพเขาชอบภาพแนววิถีชีวิตที่เป็นไทยๆ
กระทู้หน้าผมจะมีเรื่องอะไรมาเล่าสู่กันฟังอีก ก็ติดตามกันได้นะครับ แต่ถ้าผมไม่โผล่มาอีก นั่นแสดงว่า ผมได้กินลูกท้อในมือเสียแล้ว ยังไงเสียก็ขออภัยหากทำผิดพลาดประการใด
พอร์ทน้อยๆ ของกระผม
http://www.dreamstime.com/fatanfilm_info