ในที่สุดก็สอบผ่าน เอาภาพและแนวคิดมาแชร์ค่ะ
โพสต์แล้ว: 24 ก.ย. 2010 15:07ในที่สุดก็สอบผ่าน istock แล้วค่ะ ขอบคุณทุกท่านที่ช่วยเลือกรูปให้ค่ะ นี่คือภาพที่ใช้ในการสอบ และสอบผ่านค่ะ
นี่คือภาพที่ใช้ในการสอบ และผ่านค่ะ
จะเห็นว่าทั้ง 3 ภาพนี่จะเป็นแนวเดียวกันหมดเลยคือภาพบุคคล ตอนแรกก็หวั่นใจค่ะว่า ส่งแบบนี้จะให้ผ่านหรอ แต่หลังจากที่สอบตกมาถึง 5 รอบ
และรอบที่สอบผ่านนี่ลุ้นมาก เพราะถ้าพลาดรอบนี้ก็ 3 เดือนกันเลย เลยคิดว่า สิ่งที่เค้าตองการดูไม่ใช่เรื่องของความสามารถในการถ่ายภาพได้หลากหลายของ (ถ้ามีก็ดี) แต่ที่เขาต้องการดูคือ ภาพที่ดีที่สุดของเรา ทั้งในแง่ของการสื่อความหมาย ความคมชัด สภาพแสง และที่สำคัญที่สุด มันน่าจะขายได้
แน่นอนว่าภาพทุกภาพมีสิทธิ์ขายได้เสมอ แต่เรามาคิดดุง่ายๆ ภาพแบบไหนละที่สื่อความหมายได้ชัดเจนที่สุด ภาพวิว ภาพคนทำกิจกรรม ภาพพอตเทรต แน่นอนว่าภาพคนทำกิจกรรมต่างๆย่อมสื่อความหมายได้ชัดเจนสุด และขายง่ายสุด ภาพวิวไม่ใช่ว่าขายไม่ได้นะคะ แต่ในการส่งสอบของ istock เหตุผลที่แสนจะปวดใจมากที่สุดที่ได้รับตอนไม่ผ่านคือมุมมองของคุณยังไม่แปลกหรือโดใจเรามากพอ (โดนมาแล้ว )
บลูเลยมาคิดง่ายๆว่า ไอ้มุมที่มันไม่ธรรมสำหรับภาพวิวทิวทัศน์เนี่ยมันยากนะ (แสงต้องดี จังหวะ เวลา และโอกาสต้องดี ) เมื่อเทียบกับ การถ่ายภาพบุคคลทำกิจกรรมเนี่ย เราสามารถควมคุมสิ่งต่างๆได้ง่ายกว่า (ง่ายๆว่า ถ่ายให้ดุน่าสนใจได้ง่ายกว่าภาพวิวภาพดอกไม้นั่นเอง ) ที่ง่ายกว่าเพราะเราสามารถจัด่าทางได้ แสงไม่ดีเราเปลี่ยนที่ได้ แต่ที่สำคัญ ตัวแบบเราต้องมีบุคลิคดีด้วยนะ โชคดีที่บลูพอจะขอแรงเพื่อนพ้องน้องพี่มาช่วยเป็นแบบให้ได้ นี่เลยเป้นเหตุผลที่บลูเลือกที่จะส่งภาพบุคคลไปทั้ง 3 ภาพเลย
ถามว่าห่วงไหมกับการส่งรูปแบบเดียวกันหมดเลย 3 ใบ ห็ห่วงนะคะ แต่ถึงบลูเลือกที่จะภาพบุคคลทั้ง 3 ภาพก็จริง แต่ใน 3 ภาพนั้นมีกิจกรรมที่ต่างกันทั้ง 3 ภาพ ในอารมณ์ที่แตกต่างกัน และส่วนหนึ่งคือบลูอากจะพิสูทธิ์ว่า สิ่งทีเขาต้องการจริงๆคือ ภาพที่เราส่งไป มันถึงมาตรฐานของเขาไหมมากกว่า ภาพบุคคลที่บลุส่งตั้งโจทย์ไว้เลยค่ะว่า ขาตั้งกล้องเสมอ iso100 เสมอ สายลั่นชัตเตอร์เท่านั้น
ถ่ายแล้วพรีวิวดูทันที DOF ครอบคลุมมากที่สุด เขาไม่สนหรอกค่ะว่าเราถนัเถ่ายแนวไหนมาก แต่ขอให้เราส่งภาพแนวที่เราถนัดไปได้ตามมาตรฐานของเค้าก็พอ
นอกจากนี้แล้วภาพทุกภาพที่บลูมั่นใจว่ามันสวย เมื่อบลูคัดได้จำนวนหนึ่งแล้วบลูจะพักไว้ค่ะ แล้วอีก 3-4 วันกลับมาคัดภาพเดิมอีกรอบ ให้อารมณ์ตัวเองนิ่งๆซะก่อน ไม่งั้นอาการรักพี่เสียดายมันมักจะเกิดให้เลือกรูปไม่ได้ ถ้าเราปล่อยให้เวลาผ่านไปซักพัก อารมณ์เราจะนิ่งขึ้น แล้วมองเห็นข้อบกพร่องในภาพเรามากขึ้น จนสามารถคัดภาพออกได้อีกรอบ
เขียนมาซะยาวถือซะว่ามาแบ่งปันแนวคิดในการส่งภาพสอบของบลุนะคะ เผื่อหลายท่านจะลองเอาไปปรับใช้ดูค่ะ
นี่คือภาพที่ใช้ในการสอบ และผ่านค่ะ
จะเห็นว่าทั้ง 3 ภาพนี่จะเป็นแนวเดียวกันหมดเลยคือภาพบุคคล ตอนแรกก็หวั่นใจค่ะว่า ส่งแบบนี้จะให้ผ่านหรอ แต่หลังจากที่สอบตกมาถึง 5 รอบ
และรอบที่สอบผ่านนี่ลุ้นมาก เพราะถ้าพลาดรอบนี้ก็ 3 เดือนกันเลย เลยคิดว่า สิ่งที่เค้าตองการดูไม่ใช่เรื่องของความสามารถในการถ่ายภาพได้หลากหลายของ (ถ้ามีก็ดี) แต่ที่เขาต้องการดูคือ ภาพที่ดีที่สุดของเรา ทั้งในแง่ของการสื่อความหมาย ความคมชัด สภาพแสง และที่สำคัญที่สุด มันน่าจะขายได้แน่นอนว่าภาพทุกภาพมีสิทธิ์ขายได้เสมอ แต่เรามาคิดดุง่ายๆ ภาพแบบไหนละที่สื่อความหมายได้ชัดเจนที่สุด ภาพวิว ภาพคนทำกิจกรรม ภาพพอตเทรต แน่นอนว่าภาพคนทำกิจกรรมต่างๆย่อมสื่อความหมายได้ชัดเจนสุด และขายง่ายสุด ภาพวิวไม่ใช่ว่าขายไม่ได้นะคะ แต่ในการส่งสอบของ istock เหตุผลที่แสนจะปวดใจมากที่สุดที่ได้รับตอนไม่ผ่านคือมุมมองของคุณยังไม่แปลกหรือโดใจเรามากพอ (โดนมาแล้ว
) บลูเลยมาคิดง่ายๆว่า ไอ้มุมที่มันไม่ธรรมสำหรับภาพวิวทิวทัศน์เนี่ยมันยากนะ (แสงต้องดี จังหวะ เวลา และโอกาสต้องดี ) เมื่อเทียบกับ การถ่ายภาพบุคคลทำกิจกรรมเนี่ย เราสามารถควมคุมสิ่งต่างๆได้ง่ายกว่า (ง่ายๆว่า ถ่ายให้ดุน่าสนใจได้ง่ายกว่าภาพวิวภาพดอกไม้นั่นเอง ) ที่ง่ายกว่าเพราะเราสามารถจัด่าทางได้ แสงไม่ดีเราเปลี่ยนที่ได้ แต่ที่สำคัญ ตัวแบบเราต้องมีบุคลิคดีด้วยนะ โชคดีที่บลูพอจะขอแรงเพื่อนพ้องน้องพี่มาช่วยเป็นแบบให้ได้ นี่เลยเป้นเหตุผลที่บลูเลือกที่จะส่งภาพบุคคลไปทั้ง 3 ภาพเลย
ถามว่าห่วงไหมกับการส่งรูปแบบเดียวกันหมดเลย 3 ใบ ห็ห่วงนะคะ แต่ถึงบลูเลือกที่จะภาพบุคคลทั้ง 3 ภาพก็จริง แต่ใน 3 ภาพนั้นมีกิจกรรมที่ต่างกันทั้ง 3 ภาพ ในอารมณ์ที่แตกต่างกัน และส่วนหนึ่งคือบลูอากจะพิสูทธิ์ว่า สิ่งทีเขาต้องการจริงๆคือ ภาพที่เราส่งไป มันถึงมาตรฐานของเขาไหมมากกว่า ภาพบุคคลที่บลุส่งตั้งโจทย์ไว้เลยค่ะว่า ขาตั้งกล้องเสมอ iso100 เสมอ สายลั่นชัตเตอร์เท่านั้น
ถ่ายแล้วพรีวิวดูทันที DOF ครอบคลุมมากที่สุด เขาไม่สนหรอกค่ะว่าเราถนัเถ่ายแนวไหนมาก แต่ขอให้เราส่งภาพแนวที่เราถนัดไปได้ตามมาตรฐานของเค้าก็พอ นอกจากนี้แล้วภาพทุกภาพที่บลูมั่นใจว่ามันสวย เมื่อบลูคัดได้จำนวนหนึ่งแล้วบลูจะพักไว้ค่ะ แล้วอีก 3-4 วันกลับมาคัดภาพเดิมอีกรอบ ให้อารมณ์ตัวเองนิ่งๆซะก่อน ไม่งั้นอาการรักพี่เสียดายมันมักจะเกิดให้เลือกรูปไม่ได้ ถ้าเราปล่อยให้เวลาผ่านไปซักพัก อารมณ์เราจะนิ่งขึ้น แล้วมองเห็นข้อบกพร่องในภาพเรามากขึ้น จนสามารถคัดภาพออกได้อีกรอบ
เขียนมาซะยาวถือซะว่ามาแบ่งปันแนวคิดในการส่งภาพสอบของบลุนะคะ เผื่อหลายท่านจะลองเอาไปปรับใช้ดูค่ะ
